1. ควรทำประกันตั้งแต่อายุเท่าไร?
หากเริ่มทำประกันชีวิตเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี จะเห็นว่า บางครอบครัวก็เริ่ม ทำประกัน ชีวิตให้แก่ลูกของตนตั้งแต่เริ่มลืมตาดูโลก ซึ่งบางคนอาจยังไม่มองถึงจุดนี้ คิดเพียงว่าประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองชีวิตเท่านั้น
“หากมองในด้านการออมทรัพย์ การทำประกันชีวิตก็สามารถตอบโจทย์ได้เช่นกัน ดังนั้นยิ่งมีการทำประกันชีวิตเร็วเท่าไหร่ยิ่งเก็บเงินได้เร็วขึ้น และหากเริ่มทำประกันชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย หรือเริ่มทำงาน จะทำให้ค่าเบี้ยประกันถูกกว่าคนที่มีอายุมากกว่า อีกทั้ง ยังเป็นการสร้างวินัยการออมที่ดีตั้งแต่เริ่มทำงาน”
2. รายได้ไม่มากควรทำประกันแบบไหนก่อน ?
หากเพิ่งเริ่มทำงานมีรายได้ยังไม่มาก แนะว่าเริ่มการเก็บเงินด้วยการประกันชีวิตแบบการออมที่มีความคุ้มครองระยะยาว ซึ่งเป็นแบบประกันที่มีเบี้ยประกันต่ำ เหมาะสำหรับผู้มีรายได้ยังไม่มาก โดยเมืองไทยประกันชีวิตมีแบบประกันที่เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่มเริ่มทำงานมีรายได้หลายแบบ แนะว่าหากรายได้ของคุณยังไม่มาก ควรจะมองเป็นประกันแบบสะสมทรัพย์ก่อน เพื่อใช้เก็บเงินสะสมไว้ใช้ในอนาคตก่อน เพราะในช่วงเริ่มต้นทำงานค่าเบี้ยประกันจะไม่สูงมาก และเป็นการสร้างวินัยการออมในอนาคต ซึ่งผู้เอาประกันจะได้รับเงินก้อนในอีก 10 หรือ 20 ปีข้างหน้า เพื่อนำมาใช้ตอบสนองความต้องการต่างๆ ตามช่วงอายุ พร้อมทั้งได้รับความคุ้มครองระหว่างที่ทำประกัน
3. ถ้าไม่มีเงินส่งต่อควรทำยังไง ?
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้คนที่ ทำประกัน จำนวนไม่น้อย คือทำประกันไปแล้วเกิดปัญหาการเงินไม่มีเงินส่งต่อ ให้ไปขอรับเงินสด กรณีนี้ความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยจะสิ้นสุดทันที จำนวนเงินสดที่ได้รับคืนจะเป็นไปตามจำนวนที่ระบุ ในตารางเวนคืนเงินสดที่แนบอยู่ท้ายกรมธรรม์ประกันภัย
อีกทางเลือกหนึ่งคือขอเปลี่ยนเป็นมูลค่าใช้เงินสำเร็จ กรณีนี้ระยะเวลาความคุ้มครองจะเท่าเดิมตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย แต่จำนวนเงินเอาประกันภัยจะลดลง จำนวนเงินเอาประกันภัยใหม่จะเป็นไปตามจำนวนที่ระบุในตารางมูลค่าใช้เงินสำเร็จที่แนบอยู่ท้ายกรมธรรม์ประกันภัย และทางเลือกสุดท้าย ขอเปลี่ยนเป็นมูลค่าขยายเวลา กรณีนี้จำนวนเงินเอาประกันภัยจะเท่าเดิมตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย แต่ระยะเวลาความคุ้มครองใหม่จะเป็นไปตามที่ระบุไว้ในตารางมูลค่าขยายเวลาที่แนบอยู่ท้ายกรมธรรม์ประกันภัย